เมื่อมีคนทำสิ่งดี ๆ ให้กับคุณ คุณแค่ส่งต่อสิ่งดี ๆ นั้นให้กับคนอื่นเช่นเดียวกัน การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณนึกถึงคนรอบตัว และยังช่วยให้พวกเขารู้สึกดี แบบที่คุณก็รู้สึก!

1. อธิบายสิ่งที่คุณเห็น: พูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่คุณสังเกตเห็นในคน ๆ นั้น โดยไม่ตั้งสมมติฐานหรือตัดสิน
2. แสดงว่าคุณใส่ใจ: การกระทำสำคัญกว่าคำพูด แค่ให้พวกเขารู้ว่าคุณอยู่ข้างเขา ก็ช่วยได้มากแล้ว
3. รับฟังพวกเขา: ให้พื้นที่เปิดให้เขาได้พูด ตั้งคำถาม ติดตามผล และยืนยันความรู้สึก
4. รู้หน้าที่ของคุณ: ตั้งขอบเขตเพื่อปกป้องความสัมพันธ์และสุขภาพจิตของคุณ
5. เชื่อมโยงถึงแหล่งช่วยเหลือ: แนะนำพวกเขาให้ไปยังแหล่งข้อมูลและแหล่งช่วยเหลือ

ตามคำแนะนำของสมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริกา การออกกำลังกายเพียง 20 นาทีต่อวันสามารถลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าได้ถึง 25% และช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตได้

การเป็นอาสาสมัคร ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดและเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตได้ เมื่อคุณช่วยคนอื่น สมองของคุณจะปล่อยสารแห่งความสุขออกมา เช่น สารโดพามีน เอ็นดอร์ฟินส์ เซโรโทนิน

การฉลองไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ สิ่งเล็ก ๆ ในชีวิตสามารถทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น ยิ่งเราหาเหตุผลในการฉลองความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ยิ่งสุขภาพจิตดีขึ้น

สายด่วนสุขภาพจิต 1323 สามารถโทรปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ฟรีได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม. เมื่อต้องการความช่วยเหลือ

การเคารพสรรพนามที่บุคคลอื่นเลือกใช้ เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและปกป้องสุขภาพจิต

การขอบคุณและการยอมรับทำให้ผู้คนรู้สึกมีคุณค่า และการให้ข้อเสนอแนะในเชิงบวกสามารถลดผลกระทบด้านลบจากความเครียดได้

งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าการฟังเพลงช่วยลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น เมื่อคุณเครียด

คลิกเลย นี่คือ Playlist จากเรา เพลงพวกนี้เราคัดมาแล้วว่าน่าจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น!

การมีข้าวของมากเกินไปอาจทำให้คุณรู้สึกหนักใจและทำให้ความสามารถในการตัดสินใจลดลง ดังนั้นการนำไปบริจาคอาจทำให้ใครบางคนสุขใจกับของที่คุณไม่ค่อยได้ใช้แล้ว

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินก็วาดรูปได้! แค่หยิบกระดาษขึ้นมาแล้วเริ่มสร้างสรรค์ได้เลย การวาดรูปช่วยให้คุณผ่อนคลายและมีสมาธิมากขึ้น

ใช้เวลาวันละแค่ 15-20 นาที พูดคุยกับตัวเองในพื้นที่ส่วนตัวด้วยการเขียนระบายความรู้สึกลงบนหน้ากระดาษ โดยไม่ต้องซีเรียสเรื่องคุณภาพงานที่เขียน เพราะมีแต่คุณที่ได้อ่าน! วิธีนี้จะทำให้คุณได้ทบทวนเหตุการณ์ ความรู้สึก รู้เท่าทันอารมณ์ และจัดการความรู้สึกของตัวเองในยามที่เครียดได้ดีที่สุด

ฝึกสังเกตว่ามีอะไรที่ดึงพลังงานของคุณออกไป อะไรทำให้คุณโอเคและไม่โอเคบ้าง ลองเติมคำนั้นลงในช่องว่างนี้

ฉันจะตั้ง __________ เป็นขอบเขตของตัวเอง

หลังจากนั้นเราแนะนำให้คุณบอกความรู้สึกของตัวเองไป 'ฉันรู้สึก...ที่จะ...' แทนการตำหนิอีกฝ่าย เช่น ฉันไม่ค่อยสบายใจที่จะ...

ใช้การขอความร่วมมือแทนการสั่ง เช่น คุณช่วย...ได้ไหม แทน คุณอย่า... นอกจากนี้คุณยังสามารถใส่ทางเลือกอื่นลงในประโยคได้ด้วย เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกว่ามีทางเลือก

1. การใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ : การกระทำเล็ก ๆ ก็มีความหมายได้มาก เช่น เขียนการ์ด ช่วยทำงานบ้าน ล้างจาน
2. เป็น Supporter : ผลักดันนโยบายที่ดีขึ้นในที่ทำงานของคุณ และปกป้องเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวที่ถูกกดดันให้เข้าสังคมเมื่อพวกเขาไม่พร้อม
3. เสนอทางเลือก: ให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง แต่ยังคงให้ความยืดหยุ่นและหนทางที่เป็นไปได้สำหรับพวกเขา อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับรับฟังเรื่องราวของพวกเขาและตั้งคำถามที่ดี
4. สร้างความมั่นใจ: การสูญเสียความมั่นใจอาจทำให้รู้สึกไร้พลังช่วยให้พวกเขากลับมามั่นใจมากขึ้น และฉลองความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหน
5. ระลึกถึงอย่างต่อเนื่อง: ความเศร้าไม่มีตารางเวลา และผลกระทบจากการสูญเสียไม่มีจุดสิ้นสุด จดจำวันเวลานี้แม้หลังจากเวลาผ่านไปนาน และระลึกถึงทุก ๆ การครบรอบ

และในขณะเดียวกันก็จะทำให้คุณรับรู้และสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้มากขึ้น

ตื่นเร็วขึ้นอีก 5-10 นาที เพื่อให้คุณยังพอมีเวลาเลือกชุด ทำผม ให้คุณดูดีกว่าวันอื่น ๆ นี่จะช่วยเพิ่มความ productive และพลังงานดี ๆ ในเช้าวันใหม่

1. สร้างการเชื่อมโยงผ่านการแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของคุณ ช่วยให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
2. เรียนรู้และทำความเข้าใจความรู้สึกของคุณ พร้อมทั้งรับฟังมุมมองของคนรอบข้าง ลองใส่ตัวเองในสถานการณ์ของพวกเขาดู
3. อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง มุมมองที่เปลี่ยนไป เริ่มจากตัวคุณเอง